เรื่องที่ 1
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับ
สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
(ส 11101) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่อง พุทธประวัติ
ผู้วิจัย นางวริยา วิจิตรศุภการ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น
ปีที่พิมพ์ 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ
1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ส 11101) สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
2) สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ส 11101) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง พุทธประวัติ
3) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ส 11101) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง พุทธประวัติ
และ 4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎี คอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ส 11101) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง พุทธประวัติ ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น จำนวน 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสัมภาษณ์ 2) แบบวิเคราะห์เอกสาร 3) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ส 11101) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง พุทธประวัติ จำนวน 14 แผน 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 5) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ และ 6) แบบสอบถาม ความพึงพอใจของนักเรียน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 3 ระดับ จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t – test) แบบ Dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ส 11101) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ครูสอนแบบบรรยาย ขาดเทคนิคการสอน และขาดสื่อที่เร้าความสนใจ นักเรียนอ่านและจดบันทึกตามครู เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ปฏิบัติน้อย แนวคิดและทฤษฎีที่เหมาะสมกับการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เป็นการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง การมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมด้วยวิธีการต่าง ๆ กัน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ส่งเสริมการสร้างความรู้และประยุกต์ใช้ความรู้
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ส 11101) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง พุทธประวัติ มีชื่อเรีกว่า MPACC Model มีองค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ ขั้นตอนการเรียนรู้ สาระความรู้และทักษะกระบวนการ สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม สิ่งสนับสนุน และหลักการตอบสนอง ซึ่งขั้นตอนการเรียนรู้ มี 5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นกระตุ้นความสนใจ (Motivation : M) 2) ขั้นนำเสนอเนื้อหาหรือสถานการณ์ (Presentation : P) 3) ขั้นคิดวิเคราะห์ (Analysis : A) 4) ขั้นสร้างความรู้ (Construction : C)และ 5) ขั้นสรุป (Conclusion : C)และผลจากการประเมินความเหมาะสมของผู้เชี่ยวชาญ มีคะแนนเฉลี่ย 4.53 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.54 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนโดยใช้รูปแบบ การจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ส 11101) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง พุทธประวัติ สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎี คอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ส 11101) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง พุทธประวัติ สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ส 11101) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง พุทธประวัติ อยู่ในระดับมาก ( = 2.61, S.D. = 0.20)
เรื่องที่ 2
ชื่อเรื่อง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง สิ่งแวดล้อมกับ
การเปลี่ยนแปลง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย นางวริยา วิจิตรศุภการ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น
ปีที่พิมพ์ 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง สิ่งแวดล้อม กับการเปลี่ยนแปลง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง สิ่งแวดล้อมกับการเปลี่ยนแปลง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
2) เปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง สิ่งแวดล้อมกับการเปลี่ยนแปลง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง สิ่งแวดล้อมกับการเปลี่ยนแปลง กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น จำนวน 39 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก 0.28 – 0.90 มีความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 3) แบบทดสอบ วัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.85
4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 3 ระดับ จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่า ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t – test) แบบ Dependent
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนโดยใช้ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีพหุปัญญา ที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง สิ่งแวดล้อมกับการเปลี่ยนแปลง สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2. ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนโดยใช้ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง สิ่งแวดล้อมกับการเปลี่ยนแปลง สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นประถมสึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวทฤษฎีพหุปัญญา ที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง สิ่งแวดล้อมกับการเปลี่ยนแปลง โดยรวมอยู่ในระดับมาก